“ห้างยา” ของกุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ฮึดตามตีเสมอ โคเปนเฮเก้น ถึงสอบครั้งในเกมยุโรป ส่วนเกมลีกล่าสุดเอาชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 3-1 แต่จบเกมด้วยการที่ โรเบิร์ต อันดริช และ เอเซเกล เฟร์นานเดซ ได้ใบแดง
อันดริช และ เฟร์นานเดซ จะติดโทษแบนทั้งคู่ ส่วน เอเซเกล ปาลาซิออส ที่บาดเจ็บจากสัปดาห์ที่แล้ว จะพลาดลงเล่นเช่นเดียวกับ โยนาส โฮฟมันน์ และ มาร์กแต็ง เตอร์ริเยร์
ฌานูแอล เบโลเซียง หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่เป็นสำรอง ส่วน เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่ ที่เป็นซูเปอร์ซับในเกมยุโรป มีลุ้นเป็นตัวจริง
“สิงห์หนุ่ม” ของกุนซือ เคราร์โด้ เซโอเน่ โดน เบรเมน บุกอัดยับ 4-0 ในนัดล่าสุด ทำให้ยิงประตูไม่ได้เลยใน 3 นัดแรกที่มีคะแนนเดียว
นัดนี้ยังไม่มี ทิม ไคล์นเดียนส์, เปไรร่า คาร์โดโซ่ และ นาธาน เอ็นกูมู ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่จะปรับแดนกลางส่ง ยานนิค เองเกลฮาร์ท ลงเล่นแทน ฟิลิปป์ ซานเดอร์ เช่นเดียวกับแบ็กขวาที่ โจ สแคลลี่ ได้เล่นแทน ฟาบิโอ เคียโรเดีย
(3-4-2-1) : มาร์ค เฟล็คเค่น – จาเรลล์ ควานซ่า, โลอิก บาเด้, เอ็ดม็องด์ ตัปโซบา – นาธาน เทลล่า, มาลิค ทิลล์แมน, อเล็กซ์ การ์เซีย, อเล็กซ์ กรีมัลโด้ – เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่, เอลิแอส เบน เซเคียร์ – พาทริค ชิค
(4-2-3-1) : โมริทซ์ นิโคลัส – โจ สแคลลี่, เควิน ดิ๊คส์, นิโค่ เอลเวดี้, ลูคัส อุลไรช์ – ยานนิค เองเกลฮาร์ท, ร็อคโค่ ไรท์ซ – ฟร้องค์ โอโนราต์, โจวานนี่ เรย์น่า, โรบิน ฮัค – ชูโตะ มาชิโนะ
: ไบ อารีน่า
: เฟลิกซ์ ซเวเยอร์
เลเวอร์คูเซ่น อาจเสียพลังไปเยอะจากเกมยุโรปที่ต้องไล่ตามตีเสมอ แต่ทว่ากลับมาเล่นในบ้าน บวกกับแนวรุกที่ยังคมอยู่ มีโอกาสสูงที่จะเดินหน้ากด มึนเช่นกลัดบัค ได้ตามคาด ดังนั้นเชื่อว่าห้างยาพร้อมยิงกระหน่ำใส่ไม่มียั้ง
